เหตุการณ์ ‘สารวัตรคลุ้มคลั่ง’ ลากยาว 27 ชั่วโมงหยุดเหตุจนกระทั่งเสียชีวิต
สะท้อนระบบเปลี่ยนแปลงองค์กรตำรวจไม่เป็นผลสารวัตร กุมอำนาจแบบรวมศูนย์ทำกดเจ้าหน้าที่ให้เครียด กฎหมายนำพาอาวุธยังเชยเหตุการณ์กราดยิง ที่เกิดซ้ำๆซากๆในประเทศไทย พูดได้ว่าเป็นบทเรียนการสูญเสียแต่ว่ายังมิได้มีผู้ใดเข้ามาแก้ปัญหาเป็นอย่างมากจัง แล้วก็ยิ่งไปกว่านั้นผู้ก่อเรื่องจำนวนมากเปลี่ยนเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ทหาร ในระดับชั้นผู้น้อย และก็มีอาวุธปืนในครอบครองเป็นคนก่อเหตุเอง ไม่ว่าจะเป็นเกตุ กราดยิงที่โคราช กราดยิงหนองบัวลำภู ปัจจุบันเกิดเหตุ “สารวัตรบ้า” ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร สายไหม ในที่สุดผู้ก่อเหตุจำต้องเสียชีวิต เพราะเหตุว่าการห้ามเหตุของตำรวจ จนกระทั่งกำเนิดเป็นปริศนาจากสังคมว่า สมควรหรือไม่ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งคนเสียสุขภาพจิตและก็ระบบการทำงานจนกระทั่งท้ายที่สุดตกลงใจก่อเหตุเช่นนี้
ข้อมูลที่ได้รับมาจากกรมสุขภาพจิต บอกว่า จากการศึกษาเล่าเรียนในสุดยอดเหตุการณ์กราดยิงกว่า 96% มิได้มาจากคนเจ็บ แต่ว่าโดยมากจะในบุลคลที่มีความตึงเครียดสะสม วิวาท เมา อื่นๆอีกมากมาย และพบว่ามีอาการป่วยเป็นโรคทางจิตเพียงแค่ 5% เพียงแค่นั้นสารวัตร ยศอะไร จำนวนมากจะพบในโรคที่ไม่ได้รักษา คือ โรคที่มีสาเหตุเนื่องมาจากการตำหนิดสิ่งเสพติด และโรคที่เกิดขึ้นและมีสาเหตุมาจากการหลงไม่ถูกที่รุนแรง ถ้าหากบุคคลได้รับการรักษาช่องทางที่ก่อเหตุรุนแรงก็จะน้อยมาก เปลี่ยนแปลงไม่ก้าวหน้า บริหารแบบรวมศูนย์สารขึ้นต้นความตึงเครียด ป่วยไข้จิต แต่ว่าสิ่งที่ยังเป็นคำถามแล้วก็สร้างข้อครหาให้กับสังคมคงจะเกิดเรื่อง กฎหมายถือครองอาวุธปืน และก็การปรับปรุงหน่วยงานตำรวจ ของประเทศไทยที่มีปราศจากความคืบหน้าสารวัตรกํานัน คือ แล้วก็ความล้าหลัง ดร.กฤษณดงค์ พูเชื้อสาย นักอาชญาวิทยา ผู้ช่วยอธิการบดีรวมทั้งประธานกรรมการ คณะอาชญาวิทยาและก็การบริหารงานเป็นธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต พูดถึงการ ปฏิรูปตำรวจ และก็ยกเครื่องข้อบังคับนำเอาอาวุธปืนของสารวัตร ยศเมืองไทยเอาไว้อย่างน่าสนใจ ว่า จำเป็นต้องเห็นด้วยว่าการแก้ไขตำรวจของไทยปราศจากความคืบหน้ามากมายหนัก ถึงแม้ประเด็นนี้จะถูกเรียกร้องจากภาคประชากรอย่างมาก เนื่องจากตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันความเป็นหน่วยงานถูกครอบด้วยการบ้านการเมือง
ขั้นตอนการทำงานของตำรวจ 100% ขึ้นอยู่กับการเมืองทั้งหมดทั้งปวง ทั้งยังการบ้านการเมืองยังมีอำนาจในการแต่งตั้ง เคลื่อนย้าย และก็กระบวนการทางการเมืองยังไม่ยินยอมปล่อยให้หน่วยงานตำรวจเป็นอิสระจากตัวเอง เพราะว่าอยากได้เก็บเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ใช้งาน รวมไปถึงการปรารถนาสารวัตรกํานัน เป็นข้าราชการไหมรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ผู้บัญชาการสูงสุดการปฏิรูปก็เลยยังไม่มีความก้าวหน้า ดร.กฤษณพงค์ กล่าวต่อว่า การจัดการองค์กรตำรวจแบบรวมศูนย์อำนาจไว้จุดเดียว นำมาซึ่งประสิทธิภาพสำหรับการดำเนินการ แล้วก็ภาวการณ์สุขภาพเกี่ยวกับจิต สุขภาพเกี่ยวกับร่างกายของตรวจแน่ๆ เพราะเหตุว่าจำเป็นต้องเห็นด้วยว่าการทำงานของตำรวจไทยมีรูปแบบการทำานแบบทหาร คือการบังคับใช้ข้อบังคับ แต่ว่าในความเป็นจริงจึงควรวางบทบาทให้ตำรวจเป็นผู้บริการประชากรมากยิ่งกว่า
ดร.กฤษณะพงค์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีการปรับปรุงกฎหมายการพกพาอาวุธปืนของประเทศไทย ต้องเห็นด้วยว่า ขณะนี้พลเมืองคาดหวังว่าตรวจจำเป็นจะต้องดำเนินการ 1 วัน เกิดเหตุทีไรก็ต้องมีตำรวจเข้ามาช่วยเหลือแม้ว่าจะอยู่นอกเวลางานสารวัตร ย่อมาจากอะไร ก็เลยไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะต้องพกปืนกลับบ้านด้วย โดยกรณีตนมีความคิดเห็นว่าแม้จะปฏิบัติการเหมือนกับต่างชาติ คือ ตำรวจไม่ต้องพกปืนกลับบ้าน จะต้องมีการไตร่ตรองบริบท พื้นที่ ปัญหาอาชญากรรม การเข้าถึงจุดเกิดเหตุที่จำต้องเร็ว อนาคตเมืองไทยอาจจะสามารถบัญญัติกฎหมายไม่ให้ตำรวจพกปืนได้บัญญัติกฎหมายพกเคร่งครัดบริบทสังคมไทยยังมีข้อจำกัด
เกาหลีใต้ประเทศพัฒนาออกกฎคุมปืนลดฆาตกรรมจากปืนได้ 100%
แม้กระนั้นในประเทศที่พัฒนามีการกำหนด มีการบัญญัติกฎหมายสำหรับการถือครองและก็ใช้งาน อาวุธปืน อย่างเข็มงวด อย่างเช่น ประเทศเกาหลีใต้ที่เคยเป็นประเทศที่มีการก่ออาชญากรรม แล้วก็ฆาตกรรม เนื่องจากปืนเยอะที่สุดในตอนหลังการศึกเพราะปืนไม่ได้ถูกเก็บกลับ ประกอบกับเมื่อปี 1973 มีรายงานนายทหารคนหนึ่งหนีออกจากค่ายและได้กราดยิงผู้บริสุทธิ์ จนเสียชีวิต 8 ราย รวมถึงมีการการฆ่าสังหารแฟนสาวด้วยปืน ต่อจากนั้น ในปี 1990 เกาหลีใต้ได้เริ่มปฏิรูปข้อบังคับ รวมทั้งปรับปรุงตำรวจครั้งใหญ่ และก็เคร่งครัดสำหรับการนำอาวุธผืนมายิ่งขึ้น ภายใต้แนวความคิดตำรวจจำต้องดำเนินงานอย่างมีสุข
ตอนนี้ ประเทศเกาหลีใต้ ควบคุมอาวุธปืนภายใต้พ.ร.บ.เกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยของอาวุธ ปืน ดาบ วัตถุระเบิด โดยมีการกำหนดให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะต้องเก็บปืนไว้ที่สถานีตำรวจทุกคน กับควรมีการต่ออายุเอกสารสิทธิ์คครอบครองอาวุธปืนทุกปี นอกจากนี้ตำรวจควรต้องได้รับการตรวจร่างกายจิตและก็สุขภาพกายทุกปีด้วย
การออกกฎหมายที่เอาจริงเอาจังสำหรับในการครอบครองปืนของ เกาหลีใต้ ส่งผลให้การเกิดอาชญากรรม การฆ่า ปล้นด้วยปืนน้อยลงอย่างสม่ำเสมอตอนนี้พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากปืนในอัตรา 0.00%ต่อประชาชนแสนคน หรือไม่มีเหตุอาชญากรรมเนื่องจากปืนแบบ 100%ข่าวด่วน